13 ข้อคิดจากนักจิตวิทยาที่ช่วยให้เรากล้าตัดสินใจมากขึ้น

ด้วยความที่เราทั้งเรียนและทำงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่อง ‘การตัดสินใจ’ เลยทำให้ได้มีโอกาสรับฟัง ปัญหาคิดไม่ตก ของคนรอบตัวหลายๆคน

ปัญหาที่คนเราตัดสินใจไม่ได้ส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นสถานการณ์ที่ต้องเลือกทางเดินชีวิต ที่ไม่ได้มีทางเลือกไหน ที่ดีกว่าทางเลือกอื่นอย่างชัดเจน ทำให้เกิดความลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ จนหลายครั้ง ทำให้เราพลาดอะไรดีๆในชีวิตไป

วันนี้เลยอยากเอาบทสัมภาษณ์ของ Daniel Gilbert จาก Hidden Brain Podcast ที่นำเสนออีกแง่มุมหนึ่งของการตัดสินใจ และ ความสุข หรือ ความทุกข์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมาฝากกันค่ะ น่าจะช่วยให้เพื่อนๆปรับมุมมองเรื่องที่กำลังตัดสินใจอยู่ได้ไม่มากก็น้อย

  1. มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่คิดเกี่ยวกับอนาคต แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้เราทำนายอนาคตได้ถูกต้องมากขึ้นเลย แม้แต่อนาคตเกี่ยวกับ emotional response ของตัวเราเอง เช่น แค่ตอบตัวเองว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ x ขึ้นในอนาคต เราจะมีความสุข หรือ ความทุกข์ขนาดไหน เรายังทายไม่แม่นเลย
  2. Dan ยกตัวอย่างชีวิตตัวเองตอนผ่านช่วงชีวิตแย่ ทั้งหย่าร้าง ผ่าตัด เลิกคบกับเพื่อนสนิท โดยที่เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใน 1 ปี ซึ่ง Dan บอกว่า ถ้ามาถามเค้า 1 ปี ก่อนเกิดเรื่องพวกนี้ เค้าคงคิดว่าตัวเองคงจะแย่มาก ทุกข์มาก (devastated) แต่พอมันเกิดขึ้นจริง มันก็เป็น bad year แต่ก็ไม่ได้โลกถล่มแบบที่คิดไว้
  3. การตัดสินใจที่ยากลำบาก (painful decisions) มันเจ็บปวดแค่ตอนก่อนตัดสินใจเท่านั้น พอเราตัดสินใจไปแล้ว เวลาผ่านไปเราจะรู้สึกว่าแบบ เฮ้ยย นี่ฉันเคยลังเลที่จะเลือกอีกทางได้ไงเนี่ยย!!!
  4. เหตุผลแรกเลยก็คือ พอเราตัดสินใจไปแล้ว สมองเราจะเริ่ม convince เราว่าทำไมทางที่เราเลือกถึงดีกว่าอีกทาง ซึ่งบางทีก็เกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว (บางคนก็เรียกมันว่าเป็น coping mechanisms)
  5. เราอาจจะคิดว่า more freedom = more happiness แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น พอเราตัดสินใจอะไรที่ย้อนกลับไม่ได้ สมองเราจะหยุดคิดว่า what ifs แล้วโฟกัสกับทางเลือกตรงหน้า และเราจะมีความสุขมากขึ้น
  6. Dan ยกตัวอย่างตัวเอง ตอนขอแฟนสาวที่อยู่ด้วยกันมาสักพักแต่งงาน Dan บอกว่า โอ้โหวว พอเปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว ก็รู้สึกรักแฟนมากขึ้นมาเลย 55555 (that’s the difference between living together and getting married. Dan บอก)
  7. เหตุผลที่สอง คือ คนที่ตัดสินใจ คือ ตัวเราตอนนี้ คนที่สุข หรือ ทุกข์ คือตัวเราในอนาคต ซึ่งเป็นคนละคนกับตัวเราในปัจจุบัน แต่เราจะคิดว่า ตัวเราในอนาคต ก็จะเหมือนตัวเราในปัจจุบันเนี่ยแหละ
  8. มนุษย์เรา ทำนายได้แย่มาก ว่าตัวเราในอนาคตจะเปลี่ยนไปยังไง ลองถามตัวเองดูก็ได้ว่า คิดว่าตัวเองในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าจะเปลี่ยนไปขนาดไหน เราจะคิดว่าเราจะแทบไม่เปลี่ยน ทีนี้ ลองถามตัวเองว่า 10 ปีที่ผ่านมา เราเปลี่ยนไปเยอะขนาดไหน …. ฉันตอบเลยว่า มากกกก ซึ่งไม่ว่าเราจะถามคนอายุ 18 ปี หรือ 58 ปี คำตอบก็จะเป็นแบบเดียวกัน
  9. เวลาคิดถึงอนาคต เราอาจจะคิดถึง scenario สัก 2-3 แบบที่อาจจะเกิดขึ้น แต่เพราะเราไม่ใช่ Dr. Strange (อันนี้ อ. Dan ไม่ได้กล่าว) เลยเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะคิดถึงรายละเอียดเล็กน้อยทุกอย่างที่อาจจะส่งผลต่อผลลัพธ์ เพราะงั้น เราเลยทำนายอนาคตได้ห่วยมาก be humble with your prediction
  10. ไม่มี training อะไรจะช่วยให้เราทำนายอนาคตเกี่ยวกับ ความสุข ความพอใจ ของเรา ให้แม่นขึ้นได้ แต่ยังมีวิธีที่ช่วยเราได้ ก็คือ คุยกับคนที่มีประสบการณ์ในแต่ละทางเลือกของเรา ว่าเค้ารู้สึกยังไง ซึ่งเราจะคิดว่า เรากับเค้าไม่เหมือนกันหรอก แต่จริงๆแล้ว คนเรามีความคล้ายกันมากกว่าที่คิด
  11. มีคนทำ study โดยให้คนที่เข้าร่วม speed dating เลือกข้อมูล 1 ชุด เกี่ยวกับคู่เดท ชุดแรก คือ profile ว่าคู่เดทเราเป็นคนยังไง มีลักษณะแบบไหน มีประวัติแบบไหน ส่วนข้อมูลชุดที่สองคือ ความเห็นของคนที่เคย speed date กับคู่เดทของเรา แทบทุกคนเลือกข้อมูลชุดแรก แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่ predict ว่าเราจะ happy กับคู่เดทของเรารึป่าว ได้ดีกว่ามาก คือข้อมูลชุดที่สอง
  12. Surrogation is a bad way to make predictions about your happiness except for the others หรือก็คือ การเอาประสบการณ์ของคนอื่นมาทำนายความสุขในอนาคตของตัวเอง ไม่ใช่วิธีที่ดี แต่ก็ดีกว่าวิธีอื่น (เหมือนที่ Winston Churchill เคยกล่าวว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่ระบบการปกครองที่ดี แต่ก็ดีกว่าระบบอื่นที่มีอยู่)
  13. คนเราไม่ชอบ uncertainties ถึงแม้บางที มันจะทำให้เรามีความสุขมากขึ้นก็ตาม ลองคิดดูว่า ถ้าพรุ่งนี้เช้า เราได้ดอกไม้ช่อใหญ่จาก secret admirer เราจะพยายามหาว่า เอ๊ะใครนะ ส่งดอกไม้มาให้เรา แต่แทบจะการันตีได้ว่า ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร พอเรารู้คำตอบแล้ว เราจะ happy น้อยลง กว่าตอนที่เราไม่รู้

สิ่งที่คิดหลังจากฟังจบก็คือ

  • การ wait and see โดยที่ยังไม่ตัดสินใจ อาจจะเป็น choice ที่ดี ถ้าเรารู้ว่า เรากำลังรอ uncertainty เรื่องอะไร unfold แล้วมันจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น (เราเรียกมันว่า real options) แต่ถ้าเป็นไม่ตัดสินใจเพราะลังเล ก็อาจจะเป็นอย่างที่ อ. Dan บอก ตัดสินใจไปเหอะ พอตัดสินใจแล้ว จะ happy ขึ้นเยอะ
  • จริงๆการทำชีวิตให้มี happy surprise ก็ดีนะ เพราะมันทำให้เรามีความสุขกว่าเรื่องที่เราคาดหวังเอาไว้ซะอีก

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องความสุข (Happiness) มันเป็นเรื่องที่มีคนศึกษาจริงจังมากมาย เขียนออกมาเป็นหนังสือก็หลายเล่ม

หนึ่งในนั้น ก็คือ หนังสือ Stumbling on Happiness by Daniel Gilbert เป็นหนังสือเกี่ยวกับ happiness ที่ชอบมาก ใครสนใจ ลองไปหาอ่านกันได้นะคะ หรือตามไปฟัง อ. Dan ได้ในลิงค์นี้ https://hiddenbrain.org/podcast/decide-already/


Discover more from Decision Booster

Subscribe to get the latest posts sent to your email.